1. การเป็นผู้รู้จักตนเอง(Self realization)
- รู้ถึงความต้องการแห่งตน
- รู้ถึงวิธีการสร้างเป้าหมายแห่งตนไม่ว่าในชีวิตส่วนตัว หรืองาน
- รู้ถึงขีดความสามารถแห่งตนที่จะกระทำการใดๆ ได้เพียงใด
- รู้ถึงวิธีการควบคุมตนเองการมีวินัยในการใช้ชีวิต และการทำงาน
- รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อตนและการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงนั้น
- รู้ว่าตนจะต้องลงทุนอะไรเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งต้องการ
- รู้สึกได้ถึงความสุขความทุกข์ ที่สัมผัสได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องมีผู้ใดมาชี้นำ
- ยอมรับความจริงได้ทุกอย่างไม่หลอกตัวเอง
2. การเป็นผู้รู้จักการวิเคราะห์หาเหตุและผล (Analytical Mind)
- มองทุกสิ่งที่ปรากฏต่อหน้า(Appearance)อย่างลึกซึ้งคิดถึงที่ไป ที่มา ไม่ใช่แค่ที่เห็น
- มองทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นลึกถึงเหตุปัจจัย (Cause)และสามารถคาดคะเนผลที่เกิดตามมา (Consequence) ในปัจจุบันและในอนาคตได้
- เป็นผู้ที่ตั้งคำถามตลอดเวลา"ใคร(Who)?ทำอะไร(What)? ที่ไหน(Where)? เมื่อไร(When)?
ทำไม(Why) อย่างไร(HOW)?" (5-W 1H)
ทำไม(Why) อย่างไร(HOW)?" (5-W 1H)
- เข้าใจถึงหลักการ "อริยสัจ" ของพระพุทธเจ้าเป็นอย่างดี
- เป็นผู้ที่ช่างสังเกตให้ความสนใจในรายละเอียดเพื่อเก็บมาเป็นข้อมูล
- มองพฤติกรรมบุคคล(Person)เหตุการณ์ (Event) สามารถโยงถึง หลักการ (Principle) ได้ และ ใช้หลักการ (Principle)สร้างวิธีการปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหา และป้องกันปัญหา เพื่อให้เกิดเหตุการณ์ (Event) ที่ต้องการ และ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของบุคคล (Person) ให้อยู่ภายไต้การควบคุมได้
3. การเป็นผู้เรียนรู้ตลอดกาล (Life Long Learning)
- มีความรู้สึกว่าตนไม่รู้อะไรอีกมากและตระหนักถึงความเป็นผู้ใฝ่รู้ตลอดเวลา
- เข้าใจดีกับการเปลี่ยนแปลงของโลกทำให้สิ่งที่เคยรู้เมื่อวันวานอาจไม่ใช่ในวันนี้อีกต่อไป
- มองเห็นสิ่งของ ผู้คน เหตุการณ์ เป็นสื่อสอนตนได้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งดี หรือสิ่งเลว และสามารถเลือกเก็บมาจดจำและหยิบออกมาใช้ได้อย่าง เหมาะสม
- ใฝ่ค้นหาติดตาม ความรู้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะเกี่ยวข้องกับวิชาชีพ และการดำรงชีวิต
- มุ่งเรียนรู้อย่างลึกซึ้งและจริงจังให้เป็นผู้รู้และเข้าใจในแต่ละเรื่องอย่างแท้จริง
- สามารถนำองค์ความรู้ที่มีอยู่มาใช้ประโยชน์ได้อย่างถูกต้องถูกเวลา และเหมาะสม
- การเรียนรู้มี2 อย่างเรียนรู้ในสิ่งที่ยังไม่รู้และเรียนรู้สิ่งที่เรารู้ให้รู้มากขึ้น
- นักปราชญ์บอกไว้ว่าความรู้ที่แท้จริง คือการ "รู้ว่าเรารู้อะไร" และ"รู้ว่าเราไม่รู้อะไร" เพราะมันเป็นจุดเริ่มต้นให้ค้นหาความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอ
- กระบวนการเรียนรู้ของบุคคลเริ่มจาก ความปรารถนาของตน (PersonalVision) ถูกตั้งไว้ และกำหนดเป็นเป้าหมายใน
ขั้นตอนของชีวิต เรียนรู้รูปแบบ ความคิดแห่งตนและผู้อื่น (MentalModel) อย่างเข้าใจ
ให้ความสำคัญกับ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน (Sharedvision) อย่างเปิดใจกว้าง และรับฟัง
ร่วมแรงร่วมใจทำงานเพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จร่วมกัน (TeamLlearning)
รู้จักการคิดเชิงระบบ (System thinking)มีทักษะการวิเคราะห์ มองเหตุผล และมองเห็น คาดการณ์ ผลลัพธ์ในอนาคตได้และสามารถสังเคราะห์กระบวนการที่สามารถนำไป สู่ความสำเร็จที่ต้องการ ได้
ขั้นตอนของชีวิต เรียนรู้รูปแบบ ความคิดแห่งตนและผู้อื่น (MentalModel) อย่างเข้าใจ
ให้ความสำคัญกับ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน (Sharedvision) อย่างเปิดใจกว้าง และรับฟัง
ร่วมแรงร่วมใจทำงานเพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จร่วมกัน (TeamLlearning)
รู้จักการคิดเชิงระบบ (System thinking)มีทักษะการวิเคราะห์ มองเหตุผล และมองเห็น คาดการณ์ ผลลัพธ์ในอนาคตได้และสามารถสังเคราะห์กระบวนการที่สามารถนำไป สู่ความสำเร็จที่ต้องการ ได้
- ความรู้ดังกล่าวของบุคคลในกลุ่มที่อยู่ร่วมกันสามารถ นำไปสู่ความเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) และสังคมแห่งการเรียนรู้ (LearningSociety) ได้ในที่สุด อันเป็น สิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในสังคมโลกยุคใหม่(New Society) ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง รวดเร็วและไม่สิ้นสุด
4. ความเข้าใจในจิตวิทยาการบริหาร
ในการบริหารงานคงจะไม่ผิดนักหากจะพูดว่าพูด "คือการบริหารคน" นั่นเอง เพราะ คนเป็นผู้กำหนด วิธีการหรือระบบ (System) การได้มาและการบริหาร การใช้ไปของทรัพยากร (Resource Management) เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และผลสำเร็จของงานการที่จะบริการคนซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่ มีอารมณ์ และการแสดงออกที่ซับซ้อนไม่ตรงไปตรงมา และมักมี "เป้าหมายซ่อนเร้นแห่งตน (Hidden Agenda)" อยู่ภายในเสมอ ทำให้การบริหารยาก และไม่อาจ กำหนดผลลัพธ์อย่างตรงไปตรงมา ได้ ผู้นำที่เข้าใจจิตใจ ของมนุษย์หากสามารถวิเคราะห์ผลกระทบของเหตุการณ์ต่อจิตใจของคนได้ ก็จะสามารถคาดเดา พฤติกรรมแสดงออกของคนคนนั้นได้ไม่อยากและสามารถที่จะสร้างสถานการณ์รองรับไว้ล่วงหน้าเพื่อป้องกัน ผลเสียหายจากปฏิกริยาตอบโต้ของคนได้
5. การเป็นคนดี "GoodPerson"
คนเก่งและคนดีเป็นของคู่กัน แต่บางครั้งไม่ไปด้วยกัน "คนเก่ง"สร้างได้ตั้งแต่เด็กจนกระทั่งแก่เฒ่า โดยการเรียนรู้ทุ่มเท แต่ "คนดี"สร้างได้ยากกว่า นักจนบางครั้งก็สร้างไม่ได้เลย คนเรามีการพัฒนา Super ego ซึ่งได้แก่ มโนธรรมและอุดมคติแห่งตนในช่วงวัยเด็ก 5-10 ขวบจากนั้นสิ่งที่ได้รับ มาจะกลายเป็น โครงสร้างพฤติกรรม ของคนๆ นั้น(Frame ofReference)เขาจะใช้มัน ปรับให้เข้า กับสิ่งแวดล้อม ที่สัมผัสโดยใช้กระบวนการ ที่ซับซอ้นมากขึ้น การเป็นคนดีจะต้องมี การพัฒนาส่วนของ Super egoของคนๆนั้น มาแล้ว เป็นอย่างดีโดย พ่อแม่ครูอาจารย์ ในช่วงปฐมวัยเมื่อเติบใหญ่ จะเป็นคนที่สามารถ ปรับสมดุล ในตนเองให้ได้ระหว่าง"กิเลส" จาก จิตเบื้องต่ำขับเคลื่อน ด้วย สัญชาติญาณแห่ง ความต้องการที่รุนแรงที่ไม่ต้องการเงื่อนไขและข้อจำกัดไดๆ กับ "มโนธรรม" ที่ขับเคลื่อนด้วยความปารถนา ในอุดมคติแห่งตนที่เต็มไปด้วยเงื่อนไขและข้อจำกัดคนดีควรมีคุณสมบัติดังนี้
- มีความรู้ไหวพริบ เฉลียวฉลาด (IQ= IntelligenceQuatient) รู้แจ้งถึงความดีความชั่ว รู้ที่จะเอาตัวรอดจากเล่ห์อุบายของตัณหา คนชั่ว และนำพาตนเองและผู้คนให้เห็นแจ้งในทางที่ดีควรประพฤติปฏิบัติได้
- มีความอดกลั้นสติตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งยั่วยุ (EQ= Emotional Quatient)จนตกอยู่ในห้วง"กิเลส" คือ โลภะ โทษะ และโมหะ และเกิดปัญญาในการแก้ไขสร้างสรรค์ และเล็งเห็น ผลเลิศในระยะยาวได้
- มีความอดทนมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค (AQ= Adversity Quatient) พร้อมที่จะเสียสละแรงกายเพื่อให้ได้มาซึ่งอุดมคติแห่งตน และความดีที่ยึดมั่น ไม่หวั่นไหวต่อคงามลำบากและอุปสรรคไดๆ
- ไม่เป็นผู้ยึดติดกับสิ่งไดสิ่งหนึ่งจนเกินพอดี(VQ= Void Quatient)รู้ที่จะ ปรับเปลี่ยน ตนเอง ตลอดเวลาให้สอดคล้องกับสภาวะการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาอย่างเหมาะสม
- ป็นผู้มีศีลธรรมคุณธรรม และจริยธรรม (MQ= MoralQuatient) มีสำนึกของ "ความผิดชอบชั่วดี"มีความละอายใจต่อบาป ไม่ประพฤติชั่ว มุ่งทำแต่ความดี มีจิตใจที่ผ่องใส
ขอบคุณแหล่งที่มา :www.novabizz.comแหล่งที่มารูปภาพ : www.oknation.net
บริษัท ไอโปร เทรนนิ่ง จำกัด
สนใจจัดอบบรมสัมมนา
แบบ In-house/Public
Tel.089-926-5550
www.ipro-training.com

สนใจจัดอบบรมสัมมนา
แบบ In-house/Public
Tel.089-926-5550
www.ipro-training.com





